เซ็นทรัลพัฒนา หรือ CPN ตั้งเป้ารายได้ปี 2565 ขยายตัว 15-20% เดินหน้าลุยโครงการใหม่ปลายปีนี้ 4-6 โครงการ พร้อมทุ่มลงทุน 1.2 แสนล้านบาท ช่วง 5 ปีข้างหน้า ปั้นพอร์ตโครงการ หวังขึ้นแท่นผู้นำอสังหาริมทรัพย์แบบผสม
ณัฐพรรณ วุฒิชลธี ผู้ช่วยผู้อำนวยการ นักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา หรือ CPN กล่าวว่า ปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้เติบโต 15-20% จากปีที่แล้ว โดยจะมาจากการขยายโครงการศูนย์การค้าที่มีอยู่และธุรกิจอื่นๆ ทั้งอาคารสำนักงาน โรงแรม และที่อยู่อาศัย
โดย CPN ยังเดินหน้าตามแผนธุรกิจใน 5 ปี (2565-2569) ด้วยการจัดสรรงบลงทุน 1.2 แสนล้านบาท ลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสม (Mixed-Use Development) ใหม่และพลิกโฉมโครงการเดิม ตั้งเป้าครอบคลุมมากกว่า 30 จังหวัด โดยที่มีธุรกิจศูนย์การค้าเป็นแกนหลักรวม 50 โครงการ ในรูปแบบฟอร์แมตใหม่
อย่างไรก็ตาม บริษัทจะมีการปรับแผนการลงทุนและแผนพัฒนาโครงการใหม่ทั้งที่ประกาศไปแล้วและยังไม่ได้ประกาศ ซึ่งมีทั้งโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสม โครงการที่พักอาศัย รวมถึงแผนการปรับปรุงสินทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อเพิ่มมูลค่า รวมทั้งบริหารจัดการค่าใช้จ่ายและลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อเตรียมพร้อมกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน
ปัจจุบัน CPN มีงานในมือ (Backlog) 4,500 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้ 2-3 ปีข้างหน้า สำหรับโครงการใหม่คาดว่าจะทยอยออกได้ช่วงปลายปีนี้ จำนวน 4-6 โครงการ ทั้งแนวราบและแนวสูง
โดยในวันที่ 26 พฤษภาคมนี้ CPN จะเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัล จันทบุรี ซึ่งได้ทุ่มเงินลงทุนไป 3,500 ล้านบาท เพื่อรองรับในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) ส่วน Central Westville มูลค่าโครงการ 6,200 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 4/66
ปัจจุบันมีศูนย์การค้าภายใต้การบริหารงาน 55 แห่ง ประกอบด้วย ศูนย์การค้า 36 แห่ง ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ 1 แห่ง คอมมูนิตี้มอลล์ 18 แห่ง
สำหรับการขยายธุรกิจโรงแรมให้ได้ 37 โรงแรม ในอีก 5 ปีข้างหน้า จะมีทั้งจ้างบริหารและสร้างแบรนด์เอง ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษา คาดว่าจะประกาศได้ในเร็วๆ นี้
ณัฐพรรณกล่าวถึงความคืบหน้าการทำ Tender Offer หุ้นที่เหลือของ บมจ.สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ หรือ SF ว่าได้ดำเนินการแล้วเสร็จตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา และขั้นตอนต่อไปจะดำเนินการนำ SF ออกจากตลาดต่อไป
ภณพินิต อุปถัมภ์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บมจ.แกรนด์ คาแนล แลนด์ หรือ GLAND และหัวหน้านักลงทุนสัมพันธ์ ฝ่ายบริหารการเงิน บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา หรือ CPN กล่าวว่า มาตรการป้องกันโควิดที่ผ่อนคลายเพิ่มมากขึ้นและการเปิดรับนักท่องเที่ยว น่าจะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัว ทำให้ลูกค้าสามารถมาจับจ่ายใช้สอยที่ศูนย์การค้าได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม แนวโน้มผลประกอบการของกลุ่มน่าจะยังไม่กลับไปเท่ากับปีก่อนเกิดโควิด (2563) ได้ โดยมองว่าผลประกอบการรวมจะกลับไปใกล้เคียงกับปีก่อนเกิดโควิดในต้นปี 2566
“สถานการณ์โควิดในประเทศที่คลี่คลายและการเปิดประเทศทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัวสู่ระดับปกติและทำให้ผลประกอบการปีนี้เติบโตได้ตามเป้าหมาย แต่จะกลับไปเท่ากับปีก่อนโควิดคงต้องรอให้มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศกลับมาและภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวสู่ระดับปกติ คาดว่าปีหน้าจึงจะกลับไปสู่ระดับก่อนเกิดโควิดได้” ภณพินิตกล่าว
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP
